ลูกสาวเล่านาทีบ้านถล่มทับครอบครัว พ่อนอนสิ้นลมในอ้อมกอด

ลูกสาวเล่านาทีบ้านถล่มทับครอบครัว พ่อนอนสิ้นลมในอ้อมกอด

บ้านร้านไดนาโมถล่ม – วันที่ 2 พ.ค. จากกรณีบ้านตึกชั้นครึ่งซึ่งเปิดเป็นร้าไดนาโม ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พังถล่มระหว่างคนในครอบครัว 5 คน กำลังทานอาหารเย็น เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา สามารถช่วยเหลือสมาชิกที่ติดอยู่ภายใน 3 คน ออกมาได้ เมื่อช่วง 00.30 น.วานนี้ นายชัยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 54 ปี พ่อได้เสียชีวิต ส่วนแม่ นางสิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี และลูกสาวคนโต นางสาวธันยากานต์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บ

คืบหน้าล่าสุดอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ดีขึ้นแล้ว 

แต่แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด โดย นางสาวธันยากานต์ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุพ่อใช้ร่างบังตัวเธอเอาไว้ ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะสภาพพื้นที่รอบบ้านเป็นร่องระบายน้ำ เวลาเกิดฝนตกก็จะมีน้ำไหลเข้ามาท่วมใต้ถุนบ้าน อันที่จริงทางครอบครัวก็มีแผนที่จะสร้างบ้านใหม่ แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นก่อน

 “ตอนนั้นตักข้าวเข้าปากได้คำเดียว คนอื่นๆ ยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะกินข้าวได้ยินเสียงดังคล้ายว่าฟ้าร้องฟ้าฝ่าดังมาก ตนอุทานขึ้นมาว่าเสียงอะไร แล้วกำลังจะเดินไปดูที่หลังบ้าน พ่อได้เดินตามหลังตนมา แล้วต่อมาบ้านบ้านทั้งหลังก็พังลงมา ตนหันกลับไปคว้าป๊ามากอดไว้เพื่อหลบแผ่นพื้นปูนชั้นสองที่ถล่มลงมาจะทับป๊าแต่ก็ไม่ทัน พยายามเรียกแต่ป๊าไม่ขานตอบ ไม่กี่นาทีต่อมาป๊ามีอาการกระตุกและนิ่งเงียบไป นาทีนั้นรู้ว่าป๊าไม่อยู่กับตนแล้วจึงบอกป๊าว่าไม่ต้องกลัวหนูยังอยู่เป็นเพื่อน หากหนูทนไม่ไหวจะตามไปอยู่ด้วยโดยที่ยังกอดร่างของป๊าไว้ตลอดเวลา

จากนั้นตนได้พยายามจะเรียกแม่และน้องๆอีก 2 คนเพราะรู้ตำแหน่งว่าอยู่ใกล้เคียงกันเพียงแต่มองไม่เห็นตัวด้วยบ้านที่พังลงมาปิดบังไว้ทั้งหมด ช่วงที่เกิดเหตุใหม่ๆ ได้ร้องบอกแม่กับน้องให้หาโทรศัพท์แล้วโทรขอความช่วยเหลือไม่นานก็ได้ยินเสียงคนเสียงเครื่องจักรได้ยินเสียงพูดว่าเจอแม่แล้ว ตนรู้สึกดีใจที่ทุกคนปลอดภัยตอนนั้นยังพยายามควบคุมสติขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อจะได้มีอากาศไว้หายใจได้นานที่สุด กระทั่งทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือตนได้สำเร็จเป็นคนสุดท้าย”

 ขณะที่ นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าสาเหตุเกิดจากรากฐานของอาคารด้านหลังมีปัญหาดินทุรดตัว เนื่องจากเคยมีปัญหาน้ำท่วมขัง ส่งผลให้โครงสร้างอาคารทรุดตัวในลักษณะหงายหลัง ได้รับความเสียหายทั้งหมด

หนุ่มสุดทน อัดคลิปพฤติกรรมนทท.เปิดเลนเอง ทำรถติดยาว “นี่ถ้าไม่ลงไปถ่ายคลิป คงไม่ได้ไป”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดระยอง บริเวณทางเข้าหาดนางรำ ตั้งแต่แยกโรงพยาบาลสิริกิต จนถึงท่าเรือจุกเสม็ด โดยเจ้าตัวได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า

“นี่ความมักง่ายของคนเที่ยว“ 17:30รู้ว่าพากันออกมาจากหาดนางรำ สัตหีบ พากันกลับบ้านหลังจากมาเที่ยวทะเลกันสนุกสนานแล้ว แต่ไอ้การเปิดเลนใหม่จนไม่มีช่องทางให้เลนสวนวิ่งได้เลยเพราะปิดถนนแทบจะกลายเป็นทางวันเวย์แบบนี้มันเกินไปไอ้ห่าคนจะเข้าบ้านเข้าก็เข้าไม่ได้

“นี่ถ้าไม่ลงไปถ่ายคลิปเดินไล่” จะได้เข้าบ้านไหมถ้ามาเที่ยวกันแล้วทำคนพื้นที่เดือดร้อนขนาดนี้พวกอย่ามากันเลยดีกว่า ทำไมเจอกล้องถึงกลับเข้าเลนตัวเองกันได้ละกลัวกล้องมากกว่ากฎหมายจราจรสินะอายหรอ แต่สิ่งที่ทำกันเนี่ยไรยางอายบอกเลยกูอายแทน เหนื่อยแทนพี่ๆตำรวจที่มายืนโบกปากทางเข้าช่องพยายามระบายกันเต็มที่แล้วแต่ก็อย่างที่เห็นมันทำกันแบบนี้จนติดระบายไม่ออก  “ถ้ามาแล้วเป็นกันแบบนี้บอกเลยอย่ามาเถอะ” 

เมื่อเวลาประมาณ 04.00 ของวันนี้ ตำรวจสภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบางใหญ่ ถนนสายสุราษฎร์ฯ-นาสาร และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 รายคือนายนายสัญญา หมื่นสุวรรณ อายุ 18 ปี

ในที่เกิดเหตุตำรวจพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น R15 พลิกคว่ำอยู่ในสภาพโช้คหน้าขาดพังเสียหายทั้งคัน และห่างจากรถออกไป 20 เมตรบนฟุตบาธ พบร่างของนายสัญญาในสภาพนอนคว่ำ ศีรษะแตก แขนและขาขวาขาดกระเด็น

พยานในที่เกิดเหตุซึ่งขับรถตามมาเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายสัญญาขี่มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองด้วยความเร็ว และเมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีอาการล้อหน้าสะบัดทำให้เสียหลักและชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตทันที ร่างของนายสัญญาถูกส่งไปชันสูตรต่อที่รพ.สุราษฎร์ธานี

เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งของวันนี้ กู้ชีพลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งให้เข้าไปรับหญิงท้องแก่ใกล้คลอดอยู่ที่บ้านพักในอำเภอเดียวกัน

 โดยสาวท้องแก่คือ น.ส.กัญญารัต ฉิพิมาย อายุ 24 ปี มีน้ำเดินและมูกเลือดออกมา พร้อมมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทางหน่วยกู้ชีพเร่งนำตัวน.ส.กัญญารัต ส่งโรงพยาบาลปักธงชัย แต่ขับรถออกมาได้เพียง 500 เมตร คุณแม่ท้องแก่ก็ปวดท้องจนทนไม่ไหวและคลอดทารกบนรถกู้ชีพ โดยทั้งแม่และลูกปลอดภัยดี ขณะที่เด็กเป็นเพศชาย มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ หลังจากคลอดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้แจ้งให้โรงพยาบาลปักธงชัยมารับตัวแม่และเด็กไปดูแลต่อ